The Community

(7) อุปสมบท พ.ศ. ๒๔๘๙

เมื่อสามเณรสมชายมีอายุครบ ๒๑ ปี สมควรที่จะทำการญัตติจตุตถกรรมเป็นพระภิกษุในบวรพุทธศาสนา หลวงปู่มั่น ภูริทัตตเถร ก็ได้มอบผ้าสังฆาฏิ ๑๑ ขันธ์ ให้หนึ่งผืน และช้อนซ้อมทองเหลืองอีกหนึ่งค เพื่อร่วมในการอุปสมบทสามเณรสมชาย

สามเณรสมชายเห็นว่าเป็นผ้าของครูบาอาจารย์ที่เคยใช้มาก่อน ลูกศิษย์ไม่ควรเอาไปใช้ เพราะจัดอยู่ในประเภทบริโภคเจดีย์ ควรแก่การกราบไหว้สักการะบูชาแก่ศิษยานุศิษย์มากกว่า ท่านจึงไม่กล้าที่จะนำไปใช้และเก็บไว้บูชา


พอหลวงปู่มั่นทราบเจตนาของสามเณรสมชาย ดังนั้นแล้ว หลวงปู่มั่นจึงได้สั่งให้ คุณแม่นุ่ม ชุวานนท์ ซึ่งเป็นโยมอุปฐากของท่านที่สำคัญคนหนึ่ง ให้เป็นผู้จัดการหาผ้าสังฆาฏิผืนใหม่มาถวาย ด้วยแรงศรัทธาของคุณแม่นุ่ม ชุวานนท์ เคยเกี่ยวข้องและได้อุปฐากพระกรรมฐานสายปฏิบัติมานานตั้งแต่ครั้งสมัยหลวงปู่เสาร์ กนตสีโร ซึ่งเป็นอาจารย์ของหลวงปู่มั่น ภูริทตตเถร

จึงทำให้คุณแม่นุ่ม ชุวานนท์เกิดความซาบซึ้งใจในคุณธรรมและเห็นความสำคัญในพระปฏิบัติมาก ดังนั้นเมื่อหลวงปู่มั่นมีความประสงค์สิ่งใด ถ้าสิ่งนั้นไม่เหลือวิสัยจริงๆ แล้วคุณแม่นุ่ม ชุวานนท์ จะต้องจัดหามาถวายทุกอย่างให้สมเจตนา

สำหรับเรื่องผ้าสังฆาฏิที่จะใช้ในการอุปสมบทสามเณรสมชายในครั้งนั้นก็เหมีอนกัน ทั้งๆ ที่สมัยนั้นผ้าหายากมาก เพราะสงครามโลกครั้งที่สองเพิ่งจะเสร็จสิ้นลงใหม่ๆ ถึงแม้ว่าจะ ยากแสนยากเท่าไรก็ตาม คุณแม่นุ่ม ชุวานนท์ ก็พยายามทุก วิถีทางที่จะให้ได้ผ้าสังฆาฏิมาถวายตามความประสงค์ของ หลวงปู่มั่นจึงได้ลาดตระเวนหาซื้อผ้าตามจังหวัดต่างๆ หลายต่อหลายจังหวัด

ในที่สุดก็สำเร็จสมความปรารถนา จึงนับได้ว่า คุณแม่นุ่ม ชุวานนท์ มีส่วนสำคัญเป็นอย่างมากในการอุปสมบทสามเณรสมชายในครั้งนั้น ผ้าสังฆาฏิที่นำมาถวายในครั้งนั้นคิดเป็นมูลค่า ๔๐๐ บาท ( สี่ร้อยบาท) สมัยนั้นนับว่าเป็นผ้าที่มีราคาแพงมากพอสมควร


เมื่อจัดบริขารทุกสิ่งทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว หลวงปู่มั่น ภูริทตตเถร ท่านก็ได้สั่งให้ ท่านเจ้าคณพระธรรมเจดีย์ (จม พนธุโลเถร) เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงปู่ฝั้น อาจาโร เป็นพระกรรมวาจาจารย์ หลวงปู่กงมา จิรปุญโญ เป็นพระอนุสาวนาจารย์

ได้ทำการอุปสมบทกรรม ณ พัทธสีมา วัดศรีโพนเมือง อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร เมื่อวันที่ ๒๓ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๔๘๙ ครูบาอาจารย์ที่ได้กล่าวนามมาทั้งหมด ล้วนแต่เป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่มั่นทั้งสิ้น โดยเฉพาะท่านเจ้าคุณพระธรรมเจดีย์นัน้ เป็นพระอุปัชฌาย์ของหลวงปู่ฝั้น อาจาโร อีกด้วย

ดังนั้น จึงอาจกล่าวได้ว่า หลวงปู่สมชาย ฐิตวิริโย เป็นทั้งลูกศิษย์ หลานศิษย์ และเป็นเหลนศิษย์ของหลวงปู่มั่น ภายหลังจากอุปสมบทกรรมแล้ว หลวงปู่สมชาย ฐิตวิริโย ก็ได้ ไปอยู่จำพรรษา ณ วัดป่าภูธรพิทักษ์ (ธาตุนาเวง) อำเภอเมีอง จังหวัดสกลนคร โดยมีหลวงปู่ฝั้น อาจาโร เป็นเจ้าอาวาสในสมัยนั้น

ต่อมาเมื่อนายวัน สิทธิผลซึ่งอยู่ที่จังหวัดนครราชสีมา ได้ทราบข่าวว่าหลวงปู่สมชาย ฐิตวิริโย ได้เก็บรักษาผ้าสังฆาฏิของหลวงปู่มั่นเอาไว้ จึงได้มาขอเพื่อนำไปสักการะบูชาที่บ้าน หลวงปู่สมชาย ฐิตวิริโย ท่านก็ได้มอบให้แต่โดยดี

เพราะเห็นว่านายวัน สิทธิผล ก็เป็นลูกศิษย์อีกผู้หนึ่งที่มีความศรัทธาเลื่อมใสต่อหลวงปู่มั่นเป็นอย่างยิ่งอยู่แล้ว ปัจจุบันนี้จึงไม่ทราบว่าผ้าสังฆาฏิผืนดังกล่าวนั้น จะยังอยู่กับนายวัน สิทธิผล อีกหรือไม่