พระวิสุทธิญาณเถร (28) จำพรรษาที่ประเทศลาวครั้งที่ ๑

(28) จำพรรษาที่ประเทศลาวครั้งที่ ๑

จำพรรษาที่ประเทศลาวครั้งที่ ๑ (พ.ศ. ๒๔๙๙) เมื่อฤดูกาลพรรษามาถึงก็ได้ อธิษฐานจำพรรษาที่วัดจอมไตร ในปี พ.ศ. ๒๔๙๙ ในระหว่างพรรษาหลวงปู่ก็ได้นำระเบียบ อันดีงามที่เคยใช้สมัยอยู่ในประเทศไทยไปเผยแพร่ในประเทศลาว เช่นตอนกลางวันให้ พระเณรทุกองค์มาประชุมกัน

แล้วท่านเป็นผู้อ่านหนังสอบุพพสิกขาวรรณนา พร้อมทั้งได้อธิบายถึงหัวข้อธรรมะวินัยให้เข้าใจแล้วนำไปปฏิบัติกันให้ถูกต้อง เช้า-เย็น ให้มีการทำวัตรสวดมนต์เป็นประจำวัน สลับกับการบำเพ็ญภาวนา เวลาบ่ายสาม โมงให้มีการทำความสะอาดปัดกวาดบริเวณวัด ตอนกลางคืนหลังจากทำวัตรค่ำแล้ว ให้มีการเดินจงกรมและนั่งสมาธิกันทุกคืน



ส่วนทางด้านญาติโยม หลวงปู่ก็ได้เทศนาอบรมสั่งสอนทุกวันธัมมัสสวนะ ให้มีการรักษาอุโบสถศีลทุกวันอุโบสถและอบรมสั่งสอนให้รู้จักทำความสงบจิตใจ ด้วยการฝึกสมาธิ กันเป็นประจำ ญาติโยมส่วนใหญ่ที่มาให้การสนับสนุนในสมัยนั้น ล้วนแต่เป็นบุคคลชั้นนำของประเทศ เช่น เจ้าสาย-เจ้าคำแสน เป็นต้น

การเผยแพร่พระพุทธศาสนาในประเทศลาวในครั้งนั้นเป็นไปได้ดีมากพอสมควร จนเป็นที่เชื่อถือของพระภิกษุ สามเณรและประชาชนในประเทศลาวเป็นจำนวนมาก ทาง ด้านพระสงฆ์ในประเทศลาวก็ได้หันเข้ามาเคร่งครัดต่อระเบียบวินัยเพิ่มขึ้น ประชาชนชาวบ้านเห็นพระภิกษุสามเณรมีสิกขาวินัยดีกว่าก่อนมาก ก็หันเข้ามาให้ความสนับสนุนอุปถัมภ์บำรุงเป็นอย่างดี


พอออกพรรษาในปี พ.ศ. ๒๔๙๙ นั้นแล้ว หลวงปู่ สมชายก็ได้นำพาหมู่คณะพระเณรที่ไปจากเมีองไทยทั้งหมด ออกไปหาสถานที่วิเวก เพื่อเปิดโอกาสให้พระเณรเปลี่ยนสถาน ที่ในการบำเพ็ญ ท่านได้พาไปถึงภูเขาควาย ซึ่งเป็นภูเขาที่สูง ใหญ่ที่สุดในประเทศลาว และมีความสงบวิเวกยอดเยี่ยมที่สุด

เปลี่ยนจากภูเขาควาย ก็ไปที่ภูเขาโนนสาวแอ้ ภูหอภูโฮง ไปถึง วัดปากแฮด วัดบ้านนาเดี่อ บ้านดูนน้อย ภูเขาหินคันนา คอกม้า หมาเห่าเต่า และอีกหลายๆ สถานที่ ที่เหมาะแก่การบำเพ็ญสมณธรรม ท่านได้พาไปเกีอบหมด ไปจนถึงบ้านตลิ่งชันบ้านน้ำงึม บ้านเกิน เมืองกุละคม เป็นต้น